วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

กล้วยสุกกินไม่ทัน ทำกล้วยบดแช่แข็งใส่ ถุงซีลสูญญากาศ ดีกว่า

กล้วยเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และรับประทานได้ทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้ คนเราพอเริ่มหย่านมแม่ อาหารชนิดแรกๆ ที่จะโดนป้อนให้กิน ก็มีกล้วยเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ไปจนถึงผู้สูงวัยฟันไม่ค่อยมี ก็สามารถรับประทานกล้วยได้เช่นเดียวกัน เราจึงสามารถพูดได้ว่ากล้วยเป็นอาหารที่กินได้ทุกคนทุกวัยอย่างเต็มปาก อย่างไรก็ตาม การซื้อกล้วยมารับประทาน ส่วนมากเราจะเจอปัญหาการสุกและงอมอย่างรวดเร็ว ไม่ทันที่เราจะกินให้หมด ก็กลายเป็นกล้วยที่สุกจนฉ่ำ เนื้อเริ่มอ่อนเละ และเปลือกนอกเป็นสีดำคล้ำไปเสียแล้ว ซึ่งกล้วยแบบนี้ส่วนใหญ่จะต้องถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่เรายังสามารถนำเอามารับประทานได้อยู่ ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการทำเป็นเนื้อกล้วยบด และเก็บแช่แข็งเอาไว้ด้วยการใช้ เครื่องซีลสูญญากาศ บรรจุ


วิธีการไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน เพียงแค่เราแกะเอากล้วยที่สุกจนงอมกินว่ากินไม่ทันแน่ๆ แล้วเหล่านั้นเอาลงไปใส่ในถุง จากนั้นก็เอามือนวดๆ บี้จนมันเละเป็นกล้วยบด จากนั้นก็เอาเข้าเครื่องแพ็คสูญญากาศ ปิดถุงเสร็จก็เอาไปเก็บแช่ไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น วิธีการเก็บแบบนี้เราสามารถรักษากล้วยเอาไว้ใช้ได้อีกนานหลายเดือนโดยไม่เสีย มันจะเป็นเนื้อกล้วยบดแช่แข็งพร้อมใช้ แต่ในการเอามารับประทาน อาจจะต้องเอาไปแปรรูปเป็นอย่างอื่นมากกว่าเอามาทานสด แต่หากใครอยากลองทานไอศกริม กล้วยแท้ก็ไม่เสียหาย ดีต่อสุขภาพไม่อ้วน แต่โดยทั่วไปนิยมเอาไปทำเป็นขนม ผสมในเค้กหรือหรือขนมปัง หรือจะเอาไปปรุงรสแล้วทำเป็นแผ่นอบให้แห้งเป็นของขบเคี้ยว ก็ได้เหมือนกัน


กล้วยที่เราเก็บเอาไว้ใน ถุงซีลสูญญากาศ สามารถอยู่ได้นาน พร้อมให้นำเอาออกมาใช้ ไม่ว่าเราจะคิดดัดแปลงเอาไปทำเมนูไหนก็สะดวก เป็นการถนอมอาหารที่ง่าย และเราไม่ต้องเสียของที่มีคุณค่าไปเปล่าๆ อย่างน่าเสียดาย

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การละลายอาหารแช่แข็งใน ถุงซีลสูญญากาศ ด้วยการทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง

การละลายอาหารแช่แข็ง เป็นเรื่องที่เชื่อว่าทุกคนเคยทำมากันแทบทั้งนั้น ทั้งนี้ก็เนื่องจาก การแช่แข็งเป็นวิธีในการเก็บรักษาอาหารที่สามารถยืดอายุการเก็บอาหารสดได้ดีที่สุด อีกทั้งทุกๆ บ้านก็มีตู้เย็น ซึ่งตู้เย็นทุกๆ ตู้มีความสามารถในการแช่แข็งอาหารได้ทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อเราต้องการเก็บอาหารใดๆ เอาไว้ให้อยู่ได้นานๆ มันก็ไม่เป็นอะไรที่ยากเลยในการจะทำให้มันอยู่ในสภาพอาหารแช่แข็ง แต่แน่นอนว่า การแช่แบบทั่วไป กับการ แช่อาหารที่ถูกบรรจุด้วย เครื่องแพ็คสูญญากาศ สภาพของอาหารที่ได้ย่อมแตกต่างกัน 

เพราะแบบหลังผิวของอาหารได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ และไม่มีสิ่งใดเล็ดลอดเข้าไปรบกวนอาหารภายในถุงได้อีก แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายไม่ว่าจะเก็บมาดีแค่ไหน ส่วนสำคัญที่สุดก็อยู่ที่เรื่องการนำเอาออกมาปรุงรับประทาน ซึ่งส่วนใหญ่ก่อนจะถูกนำไปปรุงประกอบเป็นอาหารก็จะต้องผ่านขั้นตอนการทำให้มันละลายหายจากสภาพเป็นอาหารแช่แข็งเสียก่อน และหนึ่งในวิธีที่นิยมทำกันบ่อยๆ ก็คือ ไม่ต้องทำอะไรเลย ! เพียงแค่เอาออกมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง รอให้มันละลายแล้วค่อยเอาไปใช้...

การละลายแบบนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องทำอะไรเลยแค่รอ อย่างไรก็ตามมันใช้เวลานานมากกว่าวิธีแช่ในน้ำ หรือการละลายโดยการใช้ไมโครเวฟ แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อดีอยู่ตรงที่อาหารจะคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะการละลายด้วยไมโครเวฟอาหารจะสุกไปบางส่วน ส่วนการละลายด้วยการแช่น้ำ หากไม่ใช่ ภาชนะปิดสนิทที่ผ่านการใช้ เครื่องซีลสูญญากาศ มาก็อาจจะมีน้ำซึมเข้าไปปน 


อย่างไรก็ตามการละลายอาหารแช่แข็งด้วยการปล่อยทิ้งที่อุณหภูมิห้อง เมื่อละลายแล้วควรใช้ครั้งเดียวให้หมด ห้ามนำกลับไปแช่อีก เนื่องจากเมื่อความเย็นลดลงแบคทีเรียก็จะเริ่มขยายตัวทันที การเก็บแช่แข็งจึงไม่เป็นผลดี เพราะเท่ากับแช่แบคทีเรียจำนวนมากเอาไว้ด้วย แต่หากว่าอยู่ใน ถุงซีลสูญญากาศ ก็จะดีกว่านิดหน่อย เพราะลดการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจากภายนอกได้สมบูรณ์